วันพุธ, กรกฎาคม 20, 2559

โบแนร์, บอน บินิ (Bonaire, Bon Bini)

บทความนี้แปลมาจากต้นฉบับบทความภาษาอังกฤษที่แหนเขียน
ป้ายจราจรของเกาะโบแนร์
ความรู้สึกแรกของฉันเมื่อฉันก้าวบนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ คือ ฉันประทับใจโบแนร์มาก เรามาถึงที่นี่โดยไม่ได้ตั้งใจ แผนการเดินทางแรกที่เราวางไว้คือ ล่องเรือจากเกาะกัวเดอลุปโดยมีจุดหมายปลายทางที่เกาะคูราเซา ซึ่งมีระยะทางประมาณ 520 ไมล์ทะเล แต่เครื่องยนต์เรือของเราเกิดมีปัญหาระหว่างการเดินทาง จึงเป็นเหตุให้เราตัดสินใจพักการเดินทางที่เกาะโบแนร์และตรวจความเรียบร้อยของเรือก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังคูราเซา ที่เกาะโบแนร์นี้ไม่อนุญาตให้ทอดสมอเรือทุกบริเวณรอบเกาะ แต่ทางการได้มีที่ผูกเรือ Moorings เตรียมไว้ให้เพียงพอต่อความต้องการของนักเดินเรือ โดยมีค่าธรรมเนียม 10 ดอลล่าร์สหรัฐต่อวัน ถือว่าราคาไม่แพงและสมเหตุสมผล แต่เนื่องจากครอบครัวเรามีกำลังจ่ายที่จำกัด ค่าใช้จ่ายนี้ถือว่าเป็นภาระเพิ่มเติมจากรายจ่ายปกติของครอบครัวเรา จึงเป็นที่น่าเสียดายที่เราแวะพักที่เกาะโบแนร์นี้เพียงแต่เจ็ดวัน เป็นระยะเวลาที่สั้นที่สุดในการเดินทางเยี่ยมชมแต่ละเกาะของเรา แต่ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ โดยไม่ได้วางแผนแต่ก็สร้างความประทับใจให้ฉันเป็นอย่างมาก
Mooring ใต้น้ำ
"ดี" ผูกเรือกับ mooring
ปลาจำนวนมากใต้ท้องเรือใบ "ดี"
โบแนร์หนึ่งในหมู่เกาะเอบีซี (อะรูบา, โบแนร์ และคูราเซา) เป็นหมู่เกาะของประเทศเนเธอร์แลนด์ กฎหมายของประเทศเนเธอแลนด์บังคับใช้ที่นี่ ตามข้อมูลจากสำนักงานการท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ปี 2010ชาวท้องถิ่นเรียกกันว่า 10.10.10 เกาะโบแนร์, คูราเซา, ซาบา, เซนต์เอสตาทิอุส และเซนต์มาตินได้ยกเลิกฐานะการเป็นประเทศภายใต้ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์  ปัจจุบันได้กลายเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศเนเธอร์แลนด์ เกาะโบแนร์มีการปกครอบแบบเขตเทศบาลเมืองพิเศษ ภาษาที่ใช้เป็นทางการคือ ดัตช์และปาเปียเมนตู (Papiamentu) ปาเปียเมนตูเป็นภาษาท้องถิ่นซึ่งมีรากฐานมากจากภาษาโปรตุเกส, สเปน, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์ และแอฟริกัน นอกจากนั้น ภาษาสเปนและอังกฤษใช้กันอย่างแพร่หลายบนเกาะโบแนร์ ประชากรจำนวนมากอพยพมาจากโคลัมเบียและเวเนซุเอลาเพื่อมาหางานทำที่โบแนร์ จึงเป็นอีกเหตุผลนึงว่าทำไมชาวบ้านส่วนมากถึงพูดภาษาสเปน แม้แต่ชาวจีนที่อาศัยที่โบแนร์นี้ยังใช้ภาษาสเปนแทนภาษาอังกฤษ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่นี่เล่าว่าประชากรของโบแนร์มีเพียง 18,000 คน หากเปรียบเทียบกับมาเก๊าที่ๆ ครอบครัวเราเคยอาศัยอยู่ตัวเลขของประชาชนเท่ากันแต่ต่างกันที่ มาเก๊ามีประชากร 18,000 คน ต่อหนึ่งตารางเมตร!

เนื่องจากครอบครัวเราเคยอาศัยที่มาเก๊า ประเทศจีน ทำให้เรามีความคุ้นเคยกับชาวจีน ทั้งวีถีชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรม เมื่อเราออกเดินทางล่องเรือทางทะเลไปยังแต่ละเกาะ เรามักจะพบกับชาวจีนทุกเกาะ โดยเฉพาะที่โบแนร์ทุกมุมถนนบนถนนหนึ่งสายเราจะพบกับซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารที่มีเจ้าของเป็นชาวจีน จนทำให้ฉันอดคิดไม่ได้ว่าจำนวนประชากรจาก 18,000 คน ของโบแนร์ 8,000 คน อาจจะเป็นชาวจีน! เรามีโอกาสแวะไป Van den Tweel ซุปเปอร์มาร์เก็ตสไตล์ดัตช์ซึ่ง Albert Heijn มีสาขาอยู่ทุกแห่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ หากเปรียบเทียบราคาสินค้าที่ซุปเปอร์มาเก็ตแห่งนี้กับที่อื่นๆ ในหมู่เกาะแคริบเบียน ที่นี่ถือว่ามีราคาถูกกว่ามาก นอกจากสินค้าที่ส่งตรงมาจากเนเธอร์แลนด์แล้ว ที่นี่ยังมีบริการรถรับส่งให้แก่นักเดินเรือฟรีทุกวันอังคารและวันศุกร์ เวลา 17.00 น. ครอบครัวเราไม่มีโอกาสใช้บริการรถรับส่งจากซุปเปอร์มาเก๊ตเพราะเรามักจะเดินไปยังซุปเปอร์มาเก็ตเมื่อถึงเวลาที่ต้องตุนเสบียงอาหารให้ท้องเราอิ่ม โดยใช้เวลาเดินไปกลับเกือบหนึ่งชั่วโมง แต่การเดินถือเป็นส่วนหนึ่งของการเที่ยวชมบ้านเมืองและเป็นกิจกรรมของครอบครัวเราไปด้วยในตัว
ขนมปังร้อนๆ จากเตา ที่ซุปเปอร์มาเก็ตสไตล์ดัตช์
ป้ายรถเมล์ที่เกาะโบแนร์
โบแนร์ถือเป็น "สวรรค์ของนักดำน้ำ" บริเวณส่วนใหญ่ของเกาะเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมธสำหรับนักประดาน้ำ  25 เหรียญ และ 10 เหรียญ สำหรับผู้ที่ไม่ใช่นักประดาน้ำ กฎข้อจำกัดที่นี่เข้มงวดมาก เรือทุกลำจำเป็นต้องสำแดงปืนฉมวก (Fishing gun หรือ Speargun) โดยที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะเก็บไว้ตลอดระยะเวลาที่เราอยู่บนเกาะ และจะคืนให้เมื่อเราทำการแจ้งการเดินทางออกจากเกาะ นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องสำแดงจำนวนเรือยางและเรือคายัคที่มีทั้งหมด นักเดินเรือสามารถตกปลาจากเรือของตนเองได้ ยกเว้นการตกปลานกปากนกแก้ว (Parrot fish) และห้ามจับสัตว์ทะเลที่มีเปลือกแข็งและปะการัง หากขัดขืนมีโทษปรับที่สูงมาก
วิวชายทะเลของเกาะโบแนร์เล็ก (Klein Bonaire)
พระอาทิตย์ตกดินที่โบแนร์
สำหรับการชำระเงินค่าผูกเรือ moorings การซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำประปา สามารถติดต่อได้ที่ฮาร์เบอร์ วิลเลจ มารีน่า ฉันจำรายละเอียดราคาของน้ำมันเชื้อเพลิงและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ไม่ได้ แต่จำได้ว่าก๊าซสำหรับหุงต้มสำหรับถังขนาดประมาณ 20-25 กิโลกรัมมีราคาสูงถึง 100 เหรียญ น้ำประปาราคาไม่ได้แพงมากนัก น้ำมันเบนซินและดีเซลมาจากเกาะคูราเซาซึ่งมีราคาที่เหมาะสม ถึงแม้ว่าฉันเห็นป้ายรถประจำทางทั่วไปรอบ ๆ เกาะ แต่ชาวบ้านที่นี่บอกกับเราว่าโบแนร์ไม่มีรถโดยสารสาธารณะ รถยนต์ มอเตอร์ไซด์ และจักรยานมีให้เช่าหลายที่บนเกาะ ฉันได้สำรวจราคาค่าเช่ามอเตอร์ไซด์ตกวันละประมาณ 16 เหรียญสหรัฐ เนื่องจากที่นี่เป็นเกาะเล็ก ๆ การจราจรไม่มากและพวกเขาไม่ได้มีกฎระเบียบที่เข้มงวดสำหรับการใช้หมวกกันน็อกเท่าไหร่นัก สกุลเงินที่นี่ใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ฉันไม่เห็นคนที่นี่ใช้สกุลเงินกิลเดอร์ (กิลเดอร์เป็นสกุลเงินที่ใช้แพร่หลายในหมู่เกาะของเนเธอร์แลนด์ เช่น เซนมาติน คูราเซา เป็นต้น) ร้านค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งรับสกุลเงินยูโร แต่ไม่รับเหรียญยูโร บัตรเอทีเอ็มของฉัน (มาสเตอร์การ์ดจากเอเชีย) ใช้ได้กับเครื่องเอทีเอ็มของธนาคาร Maduro Curiel เพียงแห่งเดียว ซึ่งค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศแต่ละครั้งอยู่ที่ 4  เหรียญ ฉันพยายามกดเงินจากตู้ธนาคารอื่นซึ่งมีค่าธรรมเนียมสูงถึง 6  เหรียญ แต่บัตรเอทีเอ็มของฉันก็ใช้ไม่ได้กับตู้ธนาคารอื่น
สำนักงานการท่องเที่ยวโบแนร์ ที่ๆ เราสามารถมาใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตได้ฟรี
คำขวัญของโบแนร์ “Bonaire, Once a Visitor Always a Friend” มีความหมายคร่าวๆ ว่า เมื่อนักท่องเที่ยวได้มาเยือนโบแนร์ครั้งนึงแล้วก็จะกลายเป็นเพื่อนกันตลอดไป ฉันคิดว่าเป็นคำจำกัดความที่เหมาะสมดีที่สุดสำหรับเกาะนี้ ครอบครัวเรามีโอกาสติดต่อและขอข้อมูลโดยตรงจากสำนักงานการท่องเที่ยว สำนักงานการท่องเที่ยวทำงานอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกับรอยยิ้ม ทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเรารู้สึกว่าได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เจ้าหน้าที่ของสำนักงานการท่องเที่ยวโบแนร์พยายามให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาการติดต่อสื่อสารทางไกลของเรา ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เรารับรู้ได้ถึงความพยายามของเจ้าหน้าที่ๆ ช่วยลงแรงติดต่อโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศหลายต่อหลายสาย และยังคะยั้นคะยอว่าหากเราต้องการความช่วยเหลืออีก สามารถแวะมาได้ทุกเมื่อ จากประสบการณ์ระหว่างการล่องเรือรอบโลกของเราที่ได้ติดต่อและสอบถามข้อมูลโดยตรงกับองค์กรการท่องเที่ยวของหลายเกาะในทะเลแคริบเบียน ฉันยืนยันได้ว่าการทำงานของสำนักงานการท่องเที่ยวของโบแนร์ทำงานด้วยใจ 
คำขวัญประจำเกาะโบแนร์
อะไรที่ทำให้โบแนร์พิเศษว่าที่อื่น
สำหรับฉันๆ มักจะมองหาสถานที่ๆ เหมาะแก่การตั้งรกรากของครอบครัวของเราหลังจากที่ฉันเสร็จสิ้นการเดินทางล่องเรือรอบโลก ฉันชอบที่จะอาศัยอยู่ในสถานที่เงียบสงบซึ่งมีอาหารหลากหลายและอุดมสมบูรณ์ ง่ายต่อการเดินทางไปยังประเทศอื่นๆ และมีสภาพอากาศที่ดี ตามความคิดของฉันโบแนร์มีทั้งหมดที่ฉันมองหา!

**หมายเหตุ*** บอน บินิ ( Bon Bini) เป็นภาษาปาเปียเมนตู มีความหมายว่า ยินดีต้อนรับ

วันพฤหัสบดี, มกราคม 14, 2559

ชีวิต 3 ปี บนเรือ!



730 วัน 17 เกาะ 11 ประเทศ 
2120 ไมล์ทะเล ในแคริบเบียน

ฉันยังจำวันแรกที่ย่างเท้าเหยียบบนเรือ เรือใบที่มาจากเงินเก็บน้ำพักน้ำแรง วันที่เราลาออกจากงานประจำ และวันที่ครอบครัวเราตัดสินใจทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังแล้วออกเดินทางท่องเที่ยวร่วมกัน แม้ว่าฉันยังรู้สึกคิดถึงพ่อแม่ เพื่อน และสถานที่ๆ จากมา แต่พระอาทิตย์ตกดินทุก 730 วัน กับสามี ลูก และเพื่อนสี่ขาผู้ซื่อสัตย์นั้นมีค่ามาก ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าโชคดีมากแค่ไหน

วันนี้ย่างเข้าปีที่ 3 แล้ว ที่เราใช้ชีวิตไม่เหมือนคนอื่น ที่เราอยู่บนบ้านลอยน้ำ ที่เราต้องเดินทางย้ายจากเกาะนึงไปยังอีกเกาะนึงเสมอ บ้านที่เราอยู่ให้ความสะดวกสบายและให้ความรู้สึกปลอดภัยตลอดการเดินทางที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าหลายคนจะไม่รู้ว่าเราผลิตไฟฟ้าใช้เอง กรองน้ำเค็มเป็นน้ำจืด มีตู้เย็น เตาอบ แอร์และพัดลม ห้องน้ำ สายฝักบัวและเครื่องทำน้ำอุ่น (ที่ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่) โทรศัพท์สัญญาณดาวเทียว และทีวี เราแค่ใช้ชีวิตแตกต่างจากคนทั่วไป เพราะเรานอนบนเรือ กินบนเรือ และ-ี้บนเรือ!

ชีวิตของฉันเปลี่ยนไป
ฉันอ่านหนังสือมากขึ้นเพราะเรามีเทคโนโลยีน้อยลงทำให้เรามีเวลาเหลือมากขึ้น การเดินทางไปที่ใหม่ๆ สอนให้ฉันปรับตัวเข้าหาคนท้องถิ่น ภาษา และอาหารพื้นเมือง ฉันรู้จักคำว่า “ให้” มากขึ้นเมื่อฉันมีของที่ไม่จำเป็น ฉันมีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้น ฉันได้พบกับคนที่ไม่เพียงแต่ไม่รู้จักต้มยำกุ้ง ผัดไทย หรือข้าวเหนียวมะม่วง แต่พวกเข้าไม่รู้ว่าประเทศไทยอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่ามันคงไกลมาก คนที่ยังคิดว่าภาษาไทยมีรากฐานมาจากภาษาจีน หรือพนักงานไปรษณีย์ที่ไม่รู้ว่าประเทศไทยตั้งอยู่ในทวีปเอเชีย ฉันยิ้มให้กับคนที่ฉันไม่รู้จัก ฉันพึ่งพาตนเองก่อนที่จะขอความช่วยเหลือ ฉันรักตัวเองและดูแลตัวเองแบบพอดีเท่าที่จำเป็น ทุกอย่างรวมกันสอนให้ฉันมีความสุขกับสิ่งที่ฉันมี


อะไรคือสโลว์ไลฟ์ ? 
ใครๆ ก็พูดถึง แต่จริงแล้วๆ คืออะไร? ฉันยังใส่นาฬิกาเพื่อบอกเวลาไม่ใช่ราคา ฉันยังตื่นนอนเป็นเวลาเพราะความเคยชิน ฉันก็ถ่ายรูปที่ๆ เราไปเก็บไว้เป็นความทรงจำและเอาไว้ให้ลูกดูเมื่อเค้าโตขึ้น อาหารที่เรากินบนเรือก็คลีนเพราะปลาเราตกมาจากทะเล สโลว์ไลฟ์ของฉันไม่ได้นอนเอื่อยเฉื่อยหรือนั่งมองดูคลื่นทะเลไปวันๆ แต่เราพักงานเมื่อเราเหนื่อย เรากินเมื่อเราหิว เรากินเท่าที่เราหิว ใส่ใจเพื่อนเรือบ้านรอบข้าง ยื่นมือช่วยเหลือแม้ว่าเราเขาอาจจะไม่ต้องการ และทำกิจกรรมกับครอบครัว
ฉันไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ฉันยังใส่นาฬิกาเพื่อบอกราคา ยังถือกระเป๋ายี่ห้อนิยม และยังใส่เสื้อผ้าคุณภาพสมราคา เมื่อฉันต้องเดินทางกลับเข้าเมืองและปรับตัวเข้าหากับหน้าที่ สังคมเป็นสิ่งที่กำหนดให้เราเสนอภาพที่เราอยากให้คนเห็น ซึ่งบางครั้งก็เกินความจำเป็น

สถานที่เป็นเพียงแค่น้ำจิ้ม
เล่นน้ำทะเลคนเดียวคงไม่สนุกเท่าเล่นกันสามคนพ่อแม่ลูก อาหารรสชาดแปลกใหม่กินคนเดียวก็ไม่อร่อย เบียร์เย็นๆ ของแต่ละประเทศคงไม่เพลินเท่ามีเพื่อนดื่มด้วย พระอาทิตย์ตกดินดูคนเดียวยังไงก็ไม่สวย ฉันบอกกับตัวเองเสมอว่าฉันโชคดีมาก ที่ได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว ทำกิจกรรม และเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ ด้วยกัน จนทำให้สถานที่ๆ เราไปเยือนเป็นเพียงแค่องค์ประกอบของการเดินทาง



สิ่งที่ฉันคาดหวังในปีที่  3 ของการเดินทางที่จะมาถึง
เวลาที่เพื่อนๆ ถามฉันว่าเราจะเดินทางล่องเรือไปกันอีกนานแค่ไหน ฉันตอบแบบขำๆ เสมอว่า จนกว่าเงินจะหมด ซึ่งก็ใกล้จะหมดแล้ว หลายคนกระซิบถามมาว่าล่องเรือกันมาสองปีเต็มแล้วครอบครัวเราใช้เงินเก็บกันไปเท่าไหร่ ฉันตอบกระซิบแบบเบาๆ กลับไปว่า ผู้ใหญ่ 2 เด็ก 1 และสุนัขอีก 1 กินอยู่ร่วมค่าซ่อมบำรุงทั้งหลาย คิดเป็นเงินได้กว่า 7 หลัก ภายในปีที่ 3 ของการล่องเรือรอบโลกของเรานี้ ฉันไม่หวังอะไรมาก เพียงแค่ให้เรายังสามารถเดินทางด้วยกันอีกต่อไป นานแค่ไหนไม่รู้ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนและเงินในกระเป๋าสตางค์เราคงจะได้ข้ามคลองปานามา และใช้เวลาในทะเลฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิคก่อนที่จะตัดสินใจล่องเรือข้ามมหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก...เพราะชีวิตคือการเดินทาง