วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 02, 2558

ล่องเรือใบกลางทะเล 8 วัน กับที่เหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิด

                                     บทความนี้แปลมาจากต้นฉบับบทความภาษาอังกฤษที่แหนเขียนเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว

ครอบครัวเราออกเดินทางจากเมืองชาร์ลอตต์ อะมาลี (Charlotte Amalie) หมู่เกาะเวอร์จิ้นของสหรัฐอเมริกา (United States Virgins Islands) สัปดาห์ที่แล้ว โดยมีจุดหมายปลางทางที่ประเทศเกรเนดา (Grenada) เกาะทางตอนใต้ของทะเลแคริบเบียน อย่างไรก็ตาม เส้นทางการเดินทางคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมดประมาณ 4-5 วัน แต่เราใช้เวลาล่องเรือไปทั้งหมด 8 วัน โดยที่เดินทางมาถึงแค่ครึ่งทาง  

เพราะสาเหตุใดน่ะหรือ เพราะเมื่อเราแล่นเรือใบแผนการทุกอย่างต้องสามารถยืดหยุ่นได้ ครั้งนี้เราตั้งใจว่าจะแล่นเรือใบให้ได้มากที่สุดและใช้เครื่องยนต์ให้น้อยที่สุดเพื่อประหยัดเงินค่าน้ำมัน เราต้องแล่นเรือต้านลมที่พยายามพัดเรือเราให้กลับไปทิศทางเดิมเป็นเวลากว่า 2 วัน ถึงแม้ว่าเราจะพยายามล่องเรือซิกแซกตามแรงลมแต่ก็ไม่สามารถต้านคลื่นลมแรงได้ พยากรณ์อากาศของสัปดาห์ที่เราออกเดินทางนั้นถือว่าดีมาก ลมตอนกลางวันไม่แรงมาก คลื่นสูงไม่สูง แต่พอตกเวลากลางคืนอากาศแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อเริ่มมืดทั้งเสียงพื้นและผนังไม้บนเรือดังเอี๊ยดอ๊าดตลอดเวลาและเรือโคลงมาก เราล่องเรืออยู่ที่เดิมมา 2 วัน โดยที่ระยะทางไม่คืบหน้าเลย แล่นเรือกลับไปกลับมาตลอด 2 วันที่ผ่านมา แต่อย่างน้อยก็ไม่มีเครื่องมือหรืออะไรชำรุด

คืนวันที่ 3 ระหว่างที่ฉันพยายามกล่อมลูกเข้านอน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังและมีกลิ่นแปลกๆ หลังจากที่ฉันตะโกนถามฌูเอาว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันก็รีบวิ่งออกมาดู ฉันรู้สึกโชคดีที่กัปตันเรือฌูเอาไม่ได้หลับในเพราะความเหนื่อย เสียงที่ดังขึ้นนั้นเกิดจากหัวแก๊สแตกและแก๊สรั่ว ทำให้มีเสียงดังและกลินเหม็น แต่ฌูเอาสามารถปิดวาล์วถังแก๊สได้ทันเวลา เขาบอกกับฉันหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นว่า เขานึกในใจว่าจะโยนถังแก๊สลงทะเลแล้ว แต่ก็สามารถปิดวาล์วไว้ได้ทัน ฌูเอาได้แผลจากที่พยายามปิดวาล์วด้วยมือเปล่าขณะที่แก๊สรั่ว ทำให้มีแผลไหม้ที่นิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีอะไรสาหัส เราไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่คาดว่าน่าจะมาจากการที่เรือโคลงมากจนทำให้ข้อต่อของหัวแก๊สแยกออกจากกัน อุบัติเหตุประเภทนี้ถือว่าเป็นปัญหาหลักของนักเดินเรือที่เราต้องล่องเรือ ถังแก๊สที่เป็นสิ่งหนึ่งที่มีประโยชน์ระหว่างการเดินทาง แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนกับว่าเรานำระเบิดเวลาล่องเรือไปกับเราด้วย การเดินทางต่อมาใน 5 วันที่เหลือ เราไม่สามารถหุง ต้ม หรือปรุงอาหาร เราต้องรับประทานอาหารที่ไม่จำเป็นต้องปรุงสุก เช่น ผลไม้ เมล็ดธัญพืช ขนมปัง คุ้กกี้ อาหารกระป๋อง นมสด และทิ้งอาหารสดที่มีทั้งหมดลงทะเล แม้กระทั่งจะต้มน้ำร้อนเพื่อต้มบะหมี่สำเร็จรูปทาน หรือชงกาแฟร้อนเรายังทำไม่ได้ แต่ไม่มีอะไรที่ร้ายแรงเพียงแค่ฉันอยากทานอาหารที่ปรุงใหม่และซดน้ำแกงร้อนๆ  สำหรับลูกทารกของเราไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเพราะบนเรือของเราเต็มไปด้วยอาหารสำเร็จรูปสำหรับทารก ธัญพืช น้ำผลไม้ อาหารว่าง และนมสด ถึงแม้ว่าเราไม่สามารถหุงต้มอาหารแต่ลูกของเราก็ยังได้ทานอาหารที่มีสารอาหารครบ จริงๆ แล้วฉันรู้สึกเศร้านิดหน่อยเพราะได้วางแผนเมนูอาหารไว้ตลอดการเดินทางแล้ว ตั้งแต่อาหารเช้า กลางวัน เย็น หรือแม้แต่อาหารว่าง แต่ก็กลับต้องโยนอาหารสดทั้งหมดทิ้งทะเลไป ทำให้เสียแผน

หมายเหตุ สำหรับครอบครัวและเพื่อนๆ ของเรา ไม่ต้องเป็นห่วง เราทานอาหารครบทุกมื้อ ไม่ได้อดอาหารมื้อไหนเลย เราทานผลไม้และผักสดแทน เช่น แคนตาลูป สับปะรด แอ้ปเปิ้ล ส้ม แพร์ แครอท มะเขือเทศ หัวหอมใหญ่ และแทบจะได้แตะอาหารกระป๋องสำเร็จรูป

เราชอบช่วงเวลาในการเดินทางครั้งนี้มาก ครอบครัวเราใช้เวลาร่วมกันตลอด เราสอนคำศัพท์ใหม่ๆ ให้ลูก เรานั่งชมวิวคลื่นทะเล ชี้นกด้วยกัน เราฟังดนตรี เต้นรำ และลูกเราก็เลียนแบบท่าทางที่เราทำ เราอาบน้ำด้วยกัน และทุกครั้งที่เรือโคลงมาเรีย ดีมักจะทำเสียง "ไอ่ ไหย่ ไหย๊" หลายๆ ครั้ง วาดรูปหลายภาพ หรือถ้าจะให้อธิบายดีๆ ก็ขีดๆ เขียนๆ มากกว่าที่จะวาดรูปเป็นภาพวาด มาเรีย ดีเล่นกับโนแอล และพาตุ๊กตาของเธอเข้านอน เราเล่นน้ำฝนด้วยกัน เรานอนเตียงเดียวกันและมาเรีย ดีก็หลับในอ้อมอกฉัน (ปกติแล้วเธอจะนอนในห้องนอนของเธอคนเดียว) เราทำกิจกรรมหลายอย่างด้วยกัน ฉันชอบช่วงเวลาแห่งความสุขนี้มาก และไม่มีสิ่งไหนที่สามารถมาทดแทนได้

ฉันไม่ได้รู้สึกอึดอัดและไม่เบื่อเลยถ้าจะต้องลอยอยู่กลางน้ำทะเลสีฟ้าเป็นเดือนๆ ฉันมองดูคลื่นทะเลและฉันก็ไม่ต้องทานยาแก้เมาเรือแล้ว ฉันชอบนั่งดูท้องฟ้ากลางทะเลเพราะมันสวยมาก ท้องฟ้าแต่ละวันแตกต่างกันสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันแต่ท้องฟ้าเปลี่ยนสีในทุกๆ วัน ทุกนาทีและพระอาทิตย์ตกดินในแต่ละวันก็ไม่เหมือนกัน ปัญหาของเราอยู่ที่ว่าน้ำมันใกล้หมดและลมก็เริ่มแรงขึ้นทำให้เราล่องเรือโดยใช้ใบเรืออย่างเดียวยากขึ้น เราพยายามที่จะล่องเรือซิกแซกตามคลื่นลมอยู่หลายวันแต่ก็ไม่สามารถต้านลมได้ หลังจากที่ล่องเรืออยู่ที่เดิมมาหลายวันเราก็ตัดสินใจสตาร์ทเครื่องยนต์ใช้น้ำมันที่เหลือในถังสุดท้ายขับเรือต้านลมตรงเข้าสู่เกาะที่ใกล้ที่สุด และภาวนาให้น้ำมันพอที่จะให้เราไปถึงเกาะของประเทศโดมินิกา

เราไม่ได้วางแผนจะหยุดพักเรือที่ไหนเลยเพราะเรากะว่าจะล่องเรือตรงไปที่ประเทศเกรเนด้า แต่จริงๆ แล้วแผนแรกที่เราวางไว้คือ เราล่องเรือจากหมู่เกาะเวอร์จิ้นของสหรัฐอเมริกาไปเรื่อยๆ ทีละเกาะ เมื่อเหนื่อยก็หยุดพักเรือโดยที่ไม่ขึ้นบก ไปเรื่อยๆ ทีละเกาะจนถึงเกรเนด้า แต่เรากลับเปลี่ยนแผนโดยไม่มีสาเหตุและตัดสินใจล่องเรือรวดเดียวเป็นระยะทางประมาณ 430 ไมล์ซึ่งมีจุดหมายปลางทางไปยังประเทศเกรเนด้า สิ่งที่ฉันเรียนรู้จากประสบการณ์ครั้งนี้คือถ้าเราวางแผนอะไรไว้แล้วก็ควรยึดแผนการเดิมและเชื่อมั่นในลางสังหรณ์ของตัวเอง

เราเดินทางล่องเรือมาถึงประเทศโดมินิกาบริเวณระหว่างเมืองโรโซ (Roseau ) และพอร์ทเม้าท์ (Portsmouth) ช่วงเวลาเช้าตรู่ วันที่เราไปถึงหมอกลงหนา บรรยากาศเงียบสงบและวิวที่เต็มไปด้วยภูเขาสีเขียวขจี คงจะคล้ายกับที่หนังสือท่องเที่ยวเล่มหนึ่งอธิบายเกี่ยวกับประเทศโดมินิกาไว้ว่า "ถ้าคริสต์โตเฟอร์ โคลัมบัสเดินทางกลับมายังทะเลแคริบเบียนอีกครั้ง ประเทศโดมินิกาคงเป็นประเทศเดียวที่เขาจะจำได้" 

เมื่อเราเติมพลังกองทัพด้วยอาหารท้องถิ่นปรุงใหม่ร้อนๆ และเติมน้ำมันจนเต็มถังเรือแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะไปเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวบนเกาะของประเทศโดมินิกา ที่ๆ เราเดินทางมาถึงโดยความบังเอิญ
ออกเดินทางจากเมืองชาร์ลอตต์ อะมาลี (Charlotte Amalie) หมู่เกาะเวอร์จิ้นของสหรัฐอเมริกา (United States Virgin Islands)
วิวพระอาทิตย์ตกวันแรก 
กิจกรรมของลูกเรือ
กางใบเรือทั้งหมดเป็นครั้งแรก
สาหร่ายทะเลรอบเรือ
ผู้โดยสารบนเรือใบดี
เวลาที่ไม่มีลม กัปตันก็ของีบบ้าง
วิวพระอาทิตย์ตกวันที่สอง
วิวพระอาทิตย์ตกวันที่สาม
วิวพระอาทิตย์ตกวันที่สี่
วิวพระอาทิตย์ตกวันที่ห้า
วิวพระอาทิตย์ตกวันที่หก
ฝนครึ้มตอนบ่ายของวันที่เจ็ด
ล่องเรือใบมาถึงโดมินิกาตอนเช้าตรู่
วิวประเทศโดมินิกา
สถานที่ๆ เราล่องเรือใบมาถึงที่โดมินิกา

วันอังคาร, มิถุนายน 23, 2558

หนึ่งปีเต็มที่ผ่านมากับประสบการณ์การล่องเรือใบรอบโลก

                                               บทความนี้แปลมาจากต้นฉบับบทความภาษาอังกฤษที่แหนเขียน
ภาพถ่ายสุดท้ายที่มาเก๊าก่อนที่ครอบครัวเราย้ายมาอาศัยบนเรือใบ
ครอบครัวเราย้ายถิ่นฐานกันไปไกลกว่าครึ่งโลก
การใช้ชีวิตบนเรือใบและเดินทางไปด้วยในขณะเดียวกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย! ถ้าคุณคิดว่าเราแต่งตัวเหมือนในนิตยสารแฟชั่น จิบเครื่องดื่มริมชายหาด หรือนอนอาบแดดกันทั้งวันบนเรือ ... พวกคุณคิดผิด!

เรามีหลายอย่างที่ต้องบำรุงรักษาและซ่อมแซมบนเรือ แม้ว่าเราซื้อเรือที่ลงโฆษณาประกาศขายว่า "พร้อมที่จะแล่นเรือและสภาพสมบูรณ์" แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด! รายการด้านล่างนี้คือสิ่งที่เราต้องดูแลในการดำรงชีวิตปีแรกบนเรือใบดี

รายการสิ่งที่ต้องเปลี่ยนและซ่อมแซม
เครื่องกรองน้ำเค็มเป็นน้ำจืด
ระบบ Auto pilot
ใบเรือ
ระบบทำความเย็นของตู้เย็น
ระบบกำเนิดพลังงานลม
พัดลมภายในเรือทั้งหมด
โถสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ 2 ห้อง
หลอดไฟ LED ภายในเรือทั้งหมด
ภาพตอนย้ายเข้ามาอยู่บนเรือใหม่ๆ 
ตรวจสภาพแบตเตอร์รี่ทั้งหมด
เวลาฝนตกหนัก เราต้องมีกะละมังและชามเป็นเครื่องช่วย!
รายการสิ่งของที่ต้องซื้อใหม่
ระบบแผงพลังงานแสงอาทิตย์
เรือยางมือสองยี่ห้อ West Marine
เรือยางมือสองยี่ห้อ AB
ใบเรือมือสอง (Jibs)
เตาแก๊สสำหรับปรุงอาหาร
ถังแก๊สขนาด 25 ลิตร
ของใช้ภายในครัว เครื่องนอน และเครื่องสุขภัณฑ์
เครื่องยนต์เรือยาง
อุปกรณ์แผนที่ Chart plotter
เตียงนอน 2 ห้องนอน
ลูกตะเพรากันกระแทกระหว่างเรือ
ถังสำรองน้ำ
ตาข่ายรอบเรือ
ระบบกรองน้ำมัน
ระบบกรองน้ำ
ระบบควบคุมการทำงานของหางเสือโดยลม (Windvane)
คันเบ็ดตกปลา
เตาแก็สใหม่ (ซ้าย)
ตรวจสอบแพช่วยชีวิต (Liferaft)
เรือยางมือสองของใครสักคน แต่เป็นมือหนึ่งสำหรับเรา
ถึงแม้ว่าเงินเก็บของเราเรียกว่าแทบจะไม่เหลือเลยซักบาท แต่เราก็ยังจะมุ่งมั่นในการล่องเรือรอบโลกของเราต่อไป ประสบการณ์ที่เราได้รับในการเดินทางปีแรกจากประเทศสาธารณรัฐโดมินิกัน เปอร์โตริโก หมู่เกาะเวอร์จิ้นของสหรัฐอเมริกา หมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น เซนต์มาร์ติน โดมินิกา และเซนต์ลูเซีย เป็นประสบการณ์ที่หาอะไรมาทดแทนไม่ได้ และเป็นสิ่งที่เราจะจดจำไปตลอด
เส้นทางเดินเรือจากเซนต์โทมัส (St. Thomas) ไปยังเกาะเซนต์มาร์ติน (St. Maarten) 
การแสดงโลดโผนของเหล่าปลาโลมาที่ว่ายวนเวียใกล้เรือเรา
ปลาสดๆ จากทะเล ปลาอีโต้มอญ (Mahi-Mahi, Dorado หรือ Dolphinfish)
บรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินกลางท้องทะเลระหว่างล่องเรือ
มาดูกันว่าจากประสบการ์หนึ่งปีที่ผ่านมาคู่ของเราจะตอบคำถามเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

สถานที่ไหนที่เราประทับใจและชอบมากที่สุด
แหน: ฉันชอบเซนต์มาร์ติน  (St. Maarten) เพราะเป็นที่ๆ มีอาหารการกินหลากหลาย มีร้านอาหารหลายประเภท และฉันสามารถหาซื้อเครื่องปรุงเอเชียเกือบทั้งหมดได้ที่นี่  ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แต่ละเกาะ แต่ละประเทศมีความพิเศษในแบบที่แตกต่างกัน เพียงแค่ระยะทางห่างกันไม่มากแต่วัฒนธรรมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง 
ฌูเอา: ฉันชอบเซนต์มาร์ติน  (St. Maarten) แต่ปัญหาเรื่องเอกสารการเดินทางเข้าประเทศสำหรับแหนที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทยพิธีการค่อนข้างเยอะ ทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ถ้าจะให้เลือกสถานที่ๆ เอกสารไม่ยุ่งยากและปวดหัวน้อยหน่อยฉันเลือกหมู่เกาะเวอร์จิ้นของสหรัฐอเมริกา  
พบปะเพื่อนใหม่และเพื่อนเก่าที่เซนต์มาร์ติน (St. Maarten)
เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่เซนต์มาร์ติน (St. Martin)
เหตุผลที่ทำไมฉันถึงคิดถึงเซนต์มาร์ติน  (St. Maarten)
อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการเดินทาง
แหน: สิ่งที่ยากที่สุดคือการเริ่มต้น แต่หลังจากเริ่มต้นได้แล้วเราก็เริ่มที่จะชิน อย่างไรก็ตาม สถานะทางการเงินของเราเป็นปัญหาหลักเพราะเราใช้เงินทุนส่วนตัวตลอดการเดินทางทั้งหมดโดยที่ไม่มีผู้สนับสุนนใดๆ เป็นเงินทุนที่มาจากเงินสะสมของเรา ซึ่งขณะเดียวกันเราก็ไม่มีรายได้ประจำ จากประสบการณ์การเดินทางในปีแรกสอนให้ฉันใช้เงินอย่างฉลาดมากยิ่งขึ้น และฉันก็รู้สึกภูมิใจ 
ฌูเอา: เป็นเรื่องยากที่ต้องคอยวิตกสภาพทางการเงินอยู่เสมอและวางแผนว่าจะใช้เงินให้เพียงพออย่างไรในแต่ละเดือน รายได้เล็กน้อยที่มาจากการเขียนบทความของฉันไม่เพียงพอที่จะใช้ตลอดทั้งเดือน แต่เราก็พยายามที่จะบริหารเงินที่มีให้ดีที่สุด เราหวังว่าจากนี้ไปเราจะไม่มีปัญหาเครื่องยนต์ต่างๆ ที่ต้องซ่อม และหวังว่าเราจะสามารถหาผู้สนับสนุนโครงการการเดินทางของเราได้ในอนาคต  
การประหยัดเงินวิธีหนึ่ง 
ประสบการณ์ไม่ดีในการล่องเรือ 
แหน: เส้นทางการล่องเรือระหว่างเกาะโมนา  (Mona passage) จากประเทศสาธารณรัฐโดมินิกันไปยังประเทศเปอร์โตริโกเป็นประสบการณ์ที่แย่ที่สุดสำหรับฉัน ช่วงนั้นเป็นช่วงเริ่มต้นที่เรายังมีประสบการณ์ไม่มากนักกับเรือลำใหม่  ระบบ  auto pilot และเรด้าร์ไม่ทำงาน ทำให้เราไม่รู้ว่าสภาพอากาศรอบๆ ขณะนั้นเป็นอย่างไร และจู่ๆ ก็มีเมฆครึ้มล้อมรอบเราทุกทิศทางจนเราไม่สามารถล่องเรือไปทิศทางไหนได้ เราพยายามที่จะลอยลำเรืออยู่บริเวณเดิมและพยายามที่จะล่องเรือออกไปจากบริเวณที่มีสภาพอากาศที่ย่ำแย่  มันน่ากลัวมากจนตอนนั้นฉันต้องสวดมนต์ภาวนาให้เรารอดปลอดภัย 
ฌูเอา: สำหรับฉันก็คงจะเป็นเส้นทางระหว่างเกาะโมนาที่เป็นประสบการณ์ที่แย่ที่สุดจนถึงปัจจุบัน ตอนที่เราล่องเรือมาถึงท่าเรือแรกที่เมืองมายาเกซ  (Mayaguez) ประเทศเปอร์โตริโก แขนฉันชาและฉันรู้สึกเบลอมาก ประสบการณ์ครั้งนั้นถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับสภาพอากาศ แต่การล่องเรือจากหมู่เกาะเวอร์จิ้นของสหรัฐอเมริกา (USVI) ไปยังประเทศเกรเนดา (Grenada) เป็นประสบการณ์ที่มีการวางแผนไม่ดี เราล่องเรือออกจากฝั่งมากเกินไป ทำให้จากที่คาดว่าจะถึงจุดหมายภายใน 4 วัน กลายเป็น 8 วันและล่องเรือมาถึงได้แต่ครึ่งทางจนทำให้เราต้องพักเรือที่เกาะของประเทศโดมินิกา (Dominica) เพราะเราไม่มีน้ำมันสำรอง 
บางครั้งสภาพอากาศย่ำแย่
สภาพอากาศที่เราไม่ได้คาดการณ์ 
การล่องเรือใบโดยที่มีเด็กเล็กและสุนัขไปด้วยอย่างไร 
แหน: การดูแลทั้งเด็กและสุนัขเป็นเรื่องง่าย เมื่อถึงเวลาอาหาร เขาทั้งคู่ก็ทาน ถึงเวลานอนก็เข้านอน แต่เวลาที่ต้องพาทั้งคู่ไปเดินเล่นบนบกพร้อมกันนั้นเป็นเรื่องที่ยากกว่า เพราะมาเรีย ดีอยากจะเดินไปทางขวา แต่โนแอลอยากจะเดินไปทางซ้าย  ลองนึกภาพตามดูนะคะ 
ฌูเอา: โดยปกติแล้วฉันจะดูแลการล่องเรือใบตลอดการเดินทาง และแหนดูแลเรื่องลูกและอาหาร ระหว่างการล่องเรือตอนกลางคืนแหนจะเป็นคนกล่อมลูกเข้านอนและดูแลลูกอยู่ในห้องภายในเรือ ส่วนโนแอลจะอยู่เป็นเพื่อนข้างๆ ฉันตลอดคืน ในวันรุ่งขึ้นหลังจากทานอาหารเช้าด้วยกันแล้วแหนจะเป็นคนมารับช่วงดูแลเรือใบต่อ ให้ฉันได้มีเวลาพักและอยู่กับมาเรีย 

เด็กทารกและสุนัขอาบน้ำด้วยกันบนเรือใบ 
อะไรคือประสบการณ์ที่ดีที่สุด 
แหน: หลายครั้งที่เราประคองชีวิตคู่ของเราและสนับสนุนซึ่งกันละกัน ชีวิตที่มีเงินไม่มากและมีปัญหาหลายอย่างที่ต้องแก้ไขเป็นเรื่องยาก เราทะเลาะกันเสมอ เราทะเลาะกันเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วไปทุกคู่ เราเถียงกัน ตะโกนใส่กันและร้องไห้ แต่หลังจากนั้นเราจะพูดขอโทษและแก้ปัญหาด้วยกันเสมอ นอกจากนั้น การที่เราได้ใช้เวลาร่วมกันเห็นลูกของเราเติบโตขึ้น มีเวลาอบรมสอนลูกทุกๆ วัน และเห็นพัฒนาความสามารถทางด้านจิตใจและร่างกายของลูกเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดของฉัน 
ฌูเอา: การที่ได้เห็นพัฒนาการของลูกทุกๆ วันน่าจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่พ่อคนนึงจะมีได้ ถึงแม้ว่าการใช้ชีวิตบนเรือจะยากลำบากกว่าเมื่อก่อนและไม่มีสิ่งที่เคยมีหลายๆ สิ่งเหมือนเมื่อครั้งที่เรายังมีงานทำ แต่การได้ใช้เวลากับภรรยาและลูกสาวของฉันแน่นอนว่ามันคือประสบการณ์ที่ดีที่สุด 
รูปถ่ายแรกของปี 2015 ขณะดูพลุฉลองปีใหม่ด้วยกันที่เกาะประเทศเซ็นต์ ลูเซีย (St. Lucia)
เราทำอะไรเวลาที่เรามีเวลาว่างบนเรือใบ 
แหน: ฉันไม่มีเวลาว่างเท่าไหร่นัก เพราะเวลาทั้งหมดมักจะหมดไปกับการเตรียมหาอาหาร ทำความสะอาดเรือ และดูแลลูกก็กินเวลาทั้งวัน แต่ถ้าฉันมีเวลาเหลือโดยที่ไม่มีอะไรต้องทำ ฉันมักจะนอนงีบตอนกลางวัน 
ฌูเอา:  ปกติฉันมักจะมีหลายสิ่งที่ต้องทำในเวลาเดียวกัน ซ่อมแซมเรือก็ยังต้องทำอยู่ทุกๆ วัน ซึ่งส่วนใหญ่ฉันจะทำเวลาที่ลูกหลับ เพราะเมื่อลูกตื่น ลูกเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด บางเวลาที่ไม่มีอะไรต้องทำหรือซ่อมแซม หรือถ้าภรรยาฉันตื่น ฉันมักจะใช้เวลากับภรรยาพูดคุยกันหรือนั่งชมวิวด้วยกัน แต่ถ้าเธอนอนพักหรือทำอย่างอื่นอยู่ ฉันก็จะเช็คสภาพอากาศ หรือค้นหาข้อมูลหากมีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ฉันอ่านหนังสือก่อนเข้านอนเท่านั้น

การล่องเรือใบมีค่าใช้จ่ายสูงหรือไม่
แหน: ถ้าเราไม่มีอะไรที่ต้องซ่อม เราอาจจะสามารถเก็บเงินได้บ้าง น้ำและน้ำมันที่เราใช้บนเรือทั้งหมดเป็นเงินและมีมูลค่า เราไม่เคยจอดเทียบเรือที่มารีน่า ซึ่งก็ช่วยเราประหยัดเงินได้บ้าง ลำพังแค่ค่าอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องใช้เราพอจะจัดการกับเงินที่มีได้ สิ่งหนึ่งที่ฉันได้รับประสบการณ์ระหว่างการเดินทาง คือเราไม่สามารถเปรียบราคาสิ่งของหรืออาหารจากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่ง หรือเปรียบเทียบกับค่าเงินจากประเทศบ้านเกิดของเรา เหตุผลแรกเพราะเราไม่ได้มีเงินเดือนเหมือนเมื่อก่อน อะไรที่เมื่อก่อนเราคิดว่าราคาไม่แพง ปัจจุบันค่าเงินที่เท่ากันแต่สิ่งนั้นกลายเป็นของที่มีราคาแพงเพราะตอนนี้ฉันไม่ได้มีรายได้ สิ่งนี้ทำให้ฉันเปลี่ยนทัศนคติเรื่องการเงิน ตอนนี้ฉันคิดวิธีที่ว่า เรารู้ว่าเรามีเงินในกระเป๋าเท่าไหร่ สิ่งที่เราต้องจ่ายนั้นเรามีกำลังจ่ายพอหรือไม่ แทนที่จะเปรียบเทียบค่าเงิน 
ฌูเอา: การล่องเรือใบอย่างเดียวนั้นเป็นกิจกรรมที่ไม่มีค่าใช้จ่ายมากเท่าไหร่นัก แรงลมเป็นของฟรี แต่การบำรุงซ่อมแซมเรือเพื่อให้มีสภาพพร้อมในการล่องเรือตลอดเวลานั้นมีค่าใช้จ่ายสูง แม้ว่าเรือที่เพิ่งออกจากโรงงานมาใหม่ๆ ก็ยังต้องมีค่าบำรุงซ่อมแซม แต่หากต้องเปรียบเทียบกับชีวืตในเมืองว่าการใช้ชีวิตแบบไหนมีค่าใช้จ่ายมากกว่ากัน ฉันคิดว่ามันอยู่ที่ว่าคุณมีวิธีในการใช้เงินอย่างไรมากกว่า เมื่อก่อนเรามักจะซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ 2 -3 เครื่องทุกๆ ปี แต่ตอนนี้เราไม่มีมือถือสักเครื่องและมันก็ไม่เป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องซื้อ  
การซื้อผลผลิตจากท้องถิ่นเป็นวิธีที่ช่วยให้เราประหยัดเงินวิธีหนึ่ง 
อะไรคือสิ่งที่เราคิดถึงระหว่างการล่องเรือ 
แหน: แน่นอนที่สุดคือเพื่อนและครอบครัว ถึงแม้ว่าเราได้พบผู้คนหลากหลายและทุกคนมีความน่าสนใจ แต่ฉันก็ยังคิดถึงวันเก่าๆ กับเพื่อนที่รู้ใจและครอบครัว นอกเหนือจากนั้น ฉันคิดถึงอาหารจีน ฉันพูดได้เลยว่าอาหารจีนที่เราได้ทานนอกประเทศจีนนั้น รสชาดไม่เหมือนอาหารจีนต้นฉบับ เพราะร้านอาหารจีนในแต่ละเกาะปรับรสชาดให้เข้ากับชาวท้องถิ่น ทำไมฉันไม่คิดถึงอาหารไทยน่ะหรือ เพราะเวลาที่ฉันคิดถึงอาหารไทยจานไหน ฉันก็จะปรุงมันเองโดยที่ไม่ต้องง้อร้านอาหารไทยในต่างแดน  
ฌูเอา: เป็นเรื่องธรรมดาที่ฉันคิดถึงบ้านและเราก็มักจะเติมเต็มความรู้สึกโดยการทำอาหารที่เราคุ้นเคยและคิดถึง เราอบขนมปังเอง เราทำอาหารปิ้งย่าง เราอบขนมเค้ก ไม่ว่าอาหารประเภทไหนที่เราอยากทานเรามักทำเองบนเรือ  ถ้าเราไม่รู้วิธีทำเราก็จะหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต แต่ฉันก็ยังคิดถึงสถานที่เก่าๆ และความสะดวกสบายที่เราเคยมีทุกอย่างในมือ เคยมีเงินอยู่เต็มบัญชีธนาคารที่ทำให้เราซื้อทุกอย่างที่เราอยากได้ 
ขนมเค้กวันเกิดอบใหม่ๆ บนเรือใบดี 
เปิดกล่องของขวัญที่ปู่และย่าส่งมาให้
ของขวัญวันคริสต์มาสจากปู่และย่า 
กล่าวถึงเพื่อนๆ และครอบครัวของเรา 
แหน: อยากบอกกับทุกคนว่าเราปลอดภัยและสุขภาพแข็งแรง ครอบครัวเรามีความสุขดี ไม่ต้องเป็นห่วง และเราคิดถึงทุกคน  
ฌูเอา : ถึงครอบครัวเรา ไม่ต้องเป็นห่วงและสบายใจได้ว่าเราปลอดภัยและสบายดี เราพยายามล่องเรือด้วยความปลอดภัยด้วยความสามารถของเราอย่างดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและอันตรายที่อาจจะเกิด ถึงเพื่อนๆ ของเรา แทนที่จะไปพักร้อนที่สถานที่อื่นๆ  ทำไมไม่จัดกระเป๋าแล้วมาใช้เวลากับเราบนเรือใบดี
เพื่อนคนไทยคนแรกมาเยี่ยมเรือใบดี ที่ประเทศเซนต์ ลูเซีย (St. Lucia)
เพื่อนๆ ที่รักทั้งหลายทะเลรออยู่ ภาพถ่ายที่อ่าวซิมป์ซัน (Simpson Bay) เกาะเซนต์มาร์ติน (St. Maarten)

วันอังคาร, มิถุนายน 02, 2558

ครอบครัวเราทานอาหารกันเยอะแค่ไหนภายในหนึ่งเดือน

                                                บทความนี้แปลมาจากต้นฉบับบทความภาษาอังกฤษที่แหนเขียน

การล่องเรือข้ามผ่านมหาสมุทรแปซิฟิกของครอบครัวเราใกล้เข้ามาทุกที เราหวังว่าเมื่อฤดูพายุเฮอริเคนในแถบทะเลแคริเบียนสิ้นสุดลงเราจะสามารถข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ขณะเดียวกันครอบครัวเราตอนนี้ก็กำลังเตรียมความพร้อมทั้งสุขภาพร่างกาย เครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็น และเสบียงอาหาร

ฉันพบว่าฉันสามารถเก็บรักษาไข่ไก่ได้เป็นระยะเวลานานถึงหนึ่งเดือนหรืออาจจะมากกว่านั้น หากฉันกลับไข่ไก่ด้านป้านทุกๆ 2-3 วัน ฉันมักจะซื้อมะเขือเทศผลสีเขียว เพราะฉันสามารถนำมะเขือเทศผลสีเขียวที่ยังไม่สุกมากนักมาปรุงเป็นสลัด เมื่อมะเขือเทศสุกและเปลี่ยนผลเป็นสีแดงฉันยังมีมะเขือเทศที่สดให้ได้ทานอีกเป็นระยะเวลานานเกือบหนึ่งเดือน เวลาที่ฉันซื้อสับปะรด ฉันจะเลือกผลที่ยังไม่สุกงอมและมีสีเขียวเล็กน้อย ช่วยให้เก็บไว้ได้นานถึงสองสัปดาห์ ฉันสังเกตว่าเวลาที่ฉันเก็บแอปเปิ้ลและส้มในตู้เย็นสามารถยืดอายุของผลไม้ได้นานเกือบเดือน และหากผักสีเขียว เช่น ผักกาดหอม ผักชี หรือกะหล่ำปลีเริ่มที่จะเน่า ฉันจะตัดส่วนที่เน่าออกหรือรีบทาน เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ผักส่วนที่ยังดีอยู่เน่าเร็วขึ้น

ครอบครัวเราไม่มีปัญหาในการจัดเก็บและถนอมผักสด แต่ปัญหาหลักที่เรามีคือการจัดเก็บเนื้อสัตว์ ตู้ทำความเย็นบนเรือใบของเราไม่สามารถแช่แข็ง อาหารแช่แข็งที่เราซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตมีอายุสูงสุด 3-5 วัน ช่องแช่แข็งบนเรือไม่สามารถทำน้ำแข็ง แต่ทำให้เรามีเบียร์ที่เย็นมากได้! ดังนั้น ครอบครัวเรารู้แล้วว่าปัญหาในการล่องเรือระยะทางไกลนั้นคือการจัดเก็บเนื้อสด ส่วนเบียร์นั้นไม่ใช่ปัญหาของเรา (แต่เราไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะที่แล่นเรือใบ)

เป็นครั้งแรกที่ฉันจดบันทึกสิ่งที่เราทานเมื่อเดือนที่แล้วทั้งหมด เพราะฉันคิดว่าการจดบันทึกรายการอาหารนั้นจะช่วยให้เรารู้ว่าเราต้องเตรียมความพร้อมของเสบียงให้กับครอบครัวเรามากน้อยเท่าใดในการข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งถ้าเราโชคดีอาจใช้เวลาล่องเรือประมาณ 20-30 วัน หรืออาจจะนานกว่า40วัน กว่าเราจะล่องเรือไปถึงเกาะมาร์เกซ้ส (Marquesas) เกาะแรกในหมู่เกาะเฟรนช์โปลินีเซีย (French Polynesia) ในมหาสมุทรแปซิฟิคตามเส้นทางการเดือนเรือของเราจากประเทศปานามา (Panama)

บันทึกของฉัน อ้างอิงจากสมาชิกภายในครอบครัวประกอบด้วย ผู้ใหญ่ 2 คน เด็ก 1 คน และสุนัข 1 ตัว
โนแอล สุนัขพันธุ์เฟรนช์บูลด็อก ไม่มีปัญหารเรื่องเสบียงอาหารเท่าไรนัก เพราะโนแอลมักจะทานอาหารที่เหลือจากเราผสมกับอาหารเม็ดของสุนัข ซึ่งอาหารสุนัขถุงขนาด 3 กิโลกรัม จำนวน 2 ถุงเพียงพอสำหรับโนแอลกว่าหนึ่งเดือน และโนแอลทานอาหารเพียงแค่วันละหนึ่งครั้งเท่านั้น ครอบครัวของเราไม่ทานเนื้อวัว ส่วนใหญ่เราจึงทานเนื้อไก่ เนื้อหมู และอาหารทะเลแทน ช่วงระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ทุกเส้นทางการเดินเรือในทะเลแคริเบียนของเราไม่ว่าจะไปเกาะไหน เราตกปลาไม่ได้เลยตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น เราจึงไม่สามารถผูกท้องไว้กับเมนูอาหารฟรีจากท้องทะเล

รายการต่อไปนี้คือ 10 อันดับแรกที่เราทานมากที่สุดเมื่อเดือนที่แล้ว
ไข่ไก่ 53 ฟอง
เนื้อหมูสันใน 33 ชิ้น
กล้วย 23 ผล
แครอท 23 หัว
มันฝรั่ง 22 หัว
มะเขือเทศ 21 ลูก
ไส้กรอก 21 ชิ้น
น้ำอัดลม 20 กล่อง/ขวด (500 มิลลิลิตร)
นมสด (1 ลิตร) 18 กล่อง
หัวหอม 15 หัว

ตัวเลขจากการบันทึกทำให้เรารู้ว่าครอบครัวเราทานไข่ไก่เป็นจำนวนมาก เนื่องมาจากอาหารเช้าของเราส่วนใหญ่คือแพนเค้ก ด้านล่างเป็นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนอาหารที่เราทานเมื่อเดือนที่แล้ว
เนื้ออกไก่ 13 ชิ้น
หอมแดง 13 หัว
ส้ม 12 ลูก
น่องไก่ 12 ชิ้น
ปีกไก่ 11 ชิ้น
แตงกวา 8 ลูก
แอปเปิ้ล 7 ลูก
สับปะรด 4 ผล
เนยสด 3 แพ็ค (250 มิลลิลิตร)

เราไม่ได้จดบันทึกสิ่งที่เราทานที่ร้านอาหารซึ่งเป็นอาหารกลางวัน 13 ครั้ง และอาหารเย็น 5 ครั้ง เรายังไม่ได้เริ่มจดบันทึกจำนวนน้ำดื่มหรือเครื่องดื่มอื่นๆ เรายังมีเวลาจนถึงสิ้นปีที่จะทำให้เรารู้ว่าเราจำเป็นจะต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้างสำหรับการเดินทางล่องเรือข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งจะเป็นเส้นทางที่ท้าทายมากที่สุดของครอบครัวเราเส้นทางหนึ่ง

คุณทุกคนก็สามารถสำรวจตัวเองได้ว่า คุณทานอาหารแต่ละประเภทเป็นจำนวนเท่าไรและใช้จ่ายไปกับค่าอาหารมากน้อยแค่ไหน และการจดบันทึกนี้ยังสามารถช่วยเปลี่ยนทัศนคติในการทานอาหารแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ได้อีกด้วย 
เสบียงครัวเอเชีย
ตุนเสบียงครั้งแรกที่ประเทศสาธารณรัฐโดมินิกัน