วันศุกร์, พฤศจิกายน 29, 2556

“คนที่ใช่” ใน “เวลาที่ใช่”


พิธีรดน้ำสังข์

“ฉันเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก” เป็นประโยคที่ฉันพูดอยู่เสมอ เช่นเดียวกันกับเพื่อนและแม่ของฉัน ในสายตาของทุกคนคิดว่าฉันมีสามีที่ประเสริฐที่สุด เขารักและเอาใจใส่ดูแลฉันเป็นอย่างดี เขาเป็นคนอ่อนไหว สุภาพบุรุษ ฉลาดและขยันขันแข็ง เขามักจะซื้อของขวัญมาเอาใจฉันเสมอทั้งเนื่องในเทศกาลและไม่มีเทศกาล เขามอบดอกไม้ให้ฉันเสมอ ทำกับข้าวอร่อยๆ ให้ฉันได้ทานเกือบทุกวัน และยังดูแลลูกสาวของเราโดยปราศจากความเหน็ดเหนื่อย ฌูเอาทำทุกอย่างที่ฉันพูดมาทั้งหมด


ฉันเห็นด้วยกับทุกๆ คนที่บอกกับฉันว่า ฉันเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก ยิ่งกว่าถูกหวย ฉันไม่ได้พูดเพื่อยกยอสามีของตนเอง หรือโอ้อวดให้ทุกคนอิจฉา แต่มันคือความจริง ความจริงที่ฉันโชคดีได้มีสามีที่ประเสริฐ

เราทุกคนล้วนพยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ตัวเอง จากประสบการณ์ส่วนตัวของฉัน ฉันก็เคยพยายามอยู่หลายครั้งแต่ก็ล้มเหลวเจอคนที่ไม่ใช่ หรืออาจจะเป็นเพราะเวลาของฉันยังมาไม่ถึงในขณะนั้น

เมื่อครั้งที่ฉันพบฌูเอาครั้งแรก ฉัน (คิดว่า) โตเป็นผู้ใหญ่มากพอแล้ว ฉันได้ผ่านชีวิตวัยรุ่น ใช้ชีวิตมาแล้วอย่างเต็มที่ มีแฟนและเลิกลาไปหลายต่อหลายครั้ง ความสัมพันธ์ของฉันและฌูเอาเริ่มจากการเป็นเพื่อนทั่วๆ ไป พัฒนาเป็นแฟน คู่รัก และเป็นสามีภรรยากันในท้ายที่สุด อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมจึงทำให้ความสัมพันธ์ของเราเป็นไปอย่างราบรื่น หลายคนถามฉันว่าทำไมฉันเลือกที่จะแต่งงานกับเขา และทำไมถึงเป็นเขา ฉันตอบคำถามประโยคเดิมซ้ำๆ อย่างภูมิใจว่า ฉันเป็นคนโชคดีมีกว่าที่เขาเลือกฉัน และฉันมั่นใจว่าตลอดชีวิตฉันไม่สามารถหาผู้ชายที่ดีกว่าเขาได้อีก

อย่างไรก็ตาม เราทั้งคู่ก็เหมือนกับคู่สามีภรรยาทั่วๆ ไป เราทะเลาะ เถียงกัน มีความเห็นที่ไม่ตรงกัน ซึ่งหลายครั้งก็มาจากความใจร้อนของฉัน ฉันตระหนักแล้วว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตการแต่งงานคือ “ความประนีประนอม”


“การแต่งงาน” ในความหมายตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 หมายความว่า “การทำพิธีเพื่อให้ชายหญิง อยู่กินเป็นผัวเมียกันตามประเพณี” แต่สำหรับเราทั้งคู่ “การแต่งงาน” เหมือนจะเป็นภาระในการจัดการเอกสารทางราชการต่างๆ มากกว่า  ตราบใดที่เรายังรัก ดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันทุกสิ่งทุกอย่างมีค่าเสมอ มันไม่สำคัญเลยว่าเรามีคำว่า “การแต่งงาน” ปรากฎอยู่หรือไม่ 

ฉันได้พบ “คนที่ใช่” แล้ว ตอนนี้ถึง “เวลาที่ใช่” ในการล่องเรือใบรอบโลกกับคู่สมรสและครอบครัวของเราทั้งหมด ฉันละทิ้งชีวิตที่แสนสบาย มาใช้ชีวิตเรียบง่ายกับครอบครัวของฉันและกับผู้ชายที่รักฉันอย่างหมดหัวใจและคือผู้ชายที่ฉันหลงรักตั้งแต่แรกพบ สำหรับฉัน นั่นแหละคือความหมายของคำว่า “การแต่งงาน” โครงการล่องเรือใบรอบโลกนี้เป็นความฝันของฌูเอามาตลอด ฉันสนับสนุนเขาทุกประการ และฉันรู้ว่าฉันสามารถไว้ใจเขาได้ทุกประการ 

ฉันได้เขียนบทความนี้เพื่อระลึกถึงวันครบรอบของเราวันที่ 29 พฤศจิกายน  ซึ่งเป็นวันที่เราพบกันครั้งแรก (2006) และวันครบรอบวันแต่งงานของเรา (2009)

แด่ ฌูเอา.....ชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของฉัน 
เราจะเดินก้าวไปด้วยกันตลอดไป

0 comments:

แสดงความคิดเห็น